brand logo

PHOTO | LIFE | INSPIRATION

Mar 2024

4 ปกอัลบั้มทรงพลังเขย่าวงการดนตรีจากภาพถ่ายยุค ’60s
เรื่อง : อัตถนันท์ พลามิตร
4 Aug 2021

หลายครั้งที่ภาพถ่ายหนึ่งภาพถูกนำมาใช้ในบริบทที่แตกต่างไปจากความตั้งใจแรกของตากล้อง และอีกหลายครั้งที่ผู้คนรู้จักกับเหตุการณ์และประวัติศาสตร์เบื้องลึกเบื้องหลังภาพถ่ายหลายภาพ เพราะมันถูกนำมาปะปน หลอมรวม และประยุกต์ใช้ในวัฒนธรรมป็อปในแต่ละช่วงยุคสมัย วันนี้ D1839 ชวนคุณไปดูภาพถ่ายที่ถูกนำมาใช้เป็นปกอัลบั้มของศิลปินหลากหลายประเภทเพลง อันนำมาซึ่งการตระหนักรู้ถึงเหตุการณ์ในอดีตหลายอย่างผ่านเหล่าแฟนเพลงที่สอดรู้สอดเห็นของพวกเขา

 

ศิลปิน: Rage Against The Machine 

อัลบั้ม: Rage Against The Machine

Rage Against The Machine เป็นวงร็อคจากแคลิฟอร์เนียที่มียอดขายมากกว่า 16 ล้านชุดทั่วโลก ทำนองเพลงของพวกเขามีส่วนผสมทั้งของทั้งเพลงแรป ฟังก์ พังก์ และเมทัล ในส่วนของเนื้อหาเพลงก็วิพากษ์วิจารณ์การเมืองกับแบบไม่กลัวมาตรา 116 (ที่ประเทศพัฒนาแล้วและปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยคงไม่มีหรอกเนอะ) เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกจากเพลง Bombtrack และ Killing in The Name และอัลบั้มที่เรายกขึ้นมาคุยกันวันนี้เป็นอัลบั้มชุดแรกของวง ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 1992 โดยอาร์ตเวิร์คของปกนั้นเป็นภาพถ่ายของ Malcolm Browne ช่างภาพชาวอเมริกันที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 1963  

มัลคอล์มเป็นช่างภาพข่าวสายทหาร ทำงานในคาบสมุทรอินโดจีน ภาพนี้เขาถ่ายทิก กว๋าง ดิ๊ก พระภิกษุชาวเวียดนามใต้ (ในสมัยที่ประเทศเวียดนามยังแบ่งเป็นสองประเทศอย่างเป็นทางการ) ที่ทำการเผาตัวเองบนถนนกลางกรุงไซง่อนเพื่อประท้วงประธานาธิบดีโง ดินห์ เดียม ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และออกกฎต่างๆ บีบบังคับชาวพุทธอย่างอยุติธรรม ตั้งแต่การสั่งห้ามชักธงในวันสำคัญทางศาสนาและกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไล่ไปถึงการสั่งสังหารผู้ประท้วงชาวพุทธหลายราย หลังจากที่รัฐบาลปฏิเสธข้อเรียกร้อง 5 ข้อจากชาวพุธ ภาพเผาตัวเองประท้วงกลางถนนจึงเกิดขึ้น

ภาพว่าน่าสนใจแล้ว แต่เหตุการณ์ของโลกที่เกิดหลังจากการอัตวินิบาตกรรมของพระทิก กว๋าง ดิ๊ก นั้นน่าสนใจมากกว่า เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นบนโลกมากมายไล่เรียงมาตั้งแต่ประโยคอมตะอย่าง ‘I have a dream.’ ในสุนทรพจน์อันทรงพลังของ Martin Luther King Jr. ท่ามกลางทะเลมนุษย์กว่าสองแสนห้าหมื่นชีวิตในวันที่ 28 สิงหาคม 1963 ตามด้วยการเกิดปฏิวัติในประเทศเวียดนามใต้เพราะสหรัฐอเมริกาลอยแพกะทันหัน จบลงด้วยการลอบสังหารประธานาธิบดีโง ดินห์ เดียมในวันที่ 2 พฤศจิกายน 1963 ปิดท้ายด้วยเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดี John F. Kennedy ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 ที่กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญไปทั่วโลก 

และภาพนี้ก็ทำให้มัลคอล์มได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ สาขารายงานข่าวนานาชาติไปเมื่อปี 1964

 

ศิลปิน: The Beatles  

อัลบั้ม: Abbey Road

เราเชื่อว่าไม่มีใครรู้จักวงดนตรีอย่าง The Beatles และภาพชายสี่คนกำลังเดินข้ามทางม้าลายนี้คงจะเคยผ่านตาทุกคนกันมาบ้าง โดยอัลบั้มนี้เป็นสตูดิโออัลบั้มลับดับที่ 11 ของวงสี่เต่าทอง ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 กันยายน 1969 โดยทางวงตัดสินใจให้เป็นอัลบั้มสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้สุดท้ายจริงๆ ในอัลบั้มมีเพลงเด่นๆ อย่าง Come Together, Here Comes The Sun, Oh Darling และ Something ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Pattie Boyd อดีตภรรยาคนแรกของ George Harrison ซึ่งภายหลังไปแต่งงานกับเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Eric Clapton เจ้าของเพลง  Wonderful Tonight เพลงรักที่โด่งดัง ซึ่งทั้งคู่ก็เลิกรากันในภายหลัง

ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 1969 โดยช่างภาพชาวสกอตแลนด์นามว่า Iain Macmillan ช่างภาพที่เคยร่วมทำงานส่วนตัวให้กับทั้ง John Lennon และ Yoko Ono ในช่วงที่ทั้งสองออกเคลื่อนไหวทางสังคมเรื่องสงครามและสันติภาพอย่างชัดเจน

เชื่อหรือไม่ว่าภาพนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น โดยโลกเคชั่นคือทางม้าลายใกล้กับ Abbey Road Studios ที่วงใช้บันทึกเสียงอัลบั้ม ถูกถ่ายด้วยกล้องคู่ใจช่างภาพตลอดกาลอย่าง Hasselblad 500C/M และภาพที่ถูกเลือกคือภาพลำดับที่ 5 จากการถ่ายทั้งหมด 6 เฟรม

หลังจากอัลบั้มนี้ถูกวางขาย มันก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสมัยนั้นถึงความหมายของภาพปก ในตอนนั้นมีข่าวลือว่าพอลเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 1966 และทางวงได้ใช้ตัวแทนมาตลอด เริ่มตั้งแต่การที่จอร์จปฏิเสธที่จะใส่เสื้อสูท การที่พอลไม่สวมรองเท้า การก้าวเท้าของพอลที่ผิดแปลกจากคนอื่น การคีบบุหรี่มือขวาทั้งที่พอลถนัดมือซ้ายของ (พอลเล่นกีต้าร์ด้วยมือซ้ายมาตลอด) และการที่จอห์นที่เดินนำขบวนแต่งกายด้วยชุดสีขาวล้วน คล้ายคนเดินนำขบวนในพิธีศพ ตามด้วยริงโก้ที่ใส่ชุดดำประหนึ่งผู้ร่วมงานศพ  การเดินเท้าเปล่าของพอลซึ่งหมายถึงคนตาย จบท้ายขบวนด้วยการแต่งกายที่คล้ายสัปเหร่อของจอร์จ ในส่วนของทางม้าลายก็เปรียบเสมือนทางไปยมโลก และรถเต่าสีขาวด้านหลังที่จอดเสียปีนขึ้นฟุตบาทก็เป็นสัญญะเสมือนว่าถึงจุดจบของวงแล้ว อีกทั้งเพลงสุดท้ายในอัลบั้มก็มีชื่อว่า The End ก่อนจะมีเพลงเพลง Her Majesty เป็น hidden track ซ่อนไว้เซอร์ไพรส์แฟนเพลง (ซึ่งไม่ได้ระบุชื่อเพลงไว้บนปกหลัง) โดย hidden track นี้จะถูกวางไว้ต่อจากเพลงสุดท้าย อาจจะเว้นระยะสักหนึ่งนาที หรืออาจจะมากกว่านั้นตามแต่ลูกเล่นของศิลปิน แปลว่า ถ้าคุณฟังเพลงสุดท้ายแล้วเปลี่ยนแผ่นทันที คุณจะพลาดเพลง hidden track ไปอย่างน่าเสียดาย 

เพียงหนึ่งอาทิตย์หลังจาก Woodstock มหกรรมดนตรีของเหล่าบุปผาชนจบลง อัลบั้มนี้ก็ถูกปล่อยออกมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ภาพนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในภาพถ่ายที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดภาพหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการดนตรีประเภทร็อคแอนด์โรลล์ 

 

ศิลปิน: Various Artists

อัลบั้ม: Woodstock: Music From The Original Soundtrack and More

 Woodstock คือเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเหล่าบุปผาชน โดยเทศกาลดนตรีครั้งนี้จัดขึ้น 3 วัน ในระหว่างวันที่ 15 – 18 สิงหาคม 1969 ท่ามกลางปัญหาสงครามเวียดนาม มีผู้ร่วมงานกว่าสี่แสนห้าหมื่นคนทยอยเข้าสู่ฟาร์มใน Bethel, New York เพื่อร่วมแสดงออกถึงการเป็นปฏิปักษ์ต่อวัฒนธรรมกระแสหลัก พวกเขาไม่เชื่อว่าสงครามคือคำตอบของผู้คนในเจเนอเรชั่นของพวกเขาอีกต่อไป

ภาพนี้ถ่ายโดย Burk Uzzle ช่างภาพชาวอเมริกัน เป็นเหตุการณ์ในวันที่สามของเทศกาล ซึ่งเป็นช่วงเช้าวันอาทิตย์ ภาพชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในผ้าห่ม หลายคนเรียกภาพนี้ว่า Couple Wrapped In A Blanket ชายหญิงในภาพนี้คือ Nick Ercoline และ Bobbi Kelly ทั้งคู่เพิ่งเริ่มคบหากันและชวนกันมาร่วมงานก่อนความสัมพันธ์ของพวกเขาจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลดนตรีนี้ไปโดยปริยาย

ปัจจุบันทั้งคู่ยังคงครองรักกันเนิ่นนานตราบจนวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว เฉกเช่นปรัชญาของเทศกาล Woodstock ที่บัญญัติไว้ว่า Peace, Love, Not War

Burk Uzzle คือหนึ่งในช่างภาพที่เคยถ่ายรูปครอบครัวของ Martin Luther King Jr. ในพิธีศพ และยังเป็นผู้ถ่ายภาพ Robert Francis Kennedy น้องชายของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ในปีสุดท้ายของชีวิตช่วงปี 1968 ก่อนที่เขาจะถูกลอบสังหาร นับเป็นช่างภาพที่ได้ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ที่จารึกเหตุการณ์สำคัญไว้มากทีเดียว

 

ศิลปิน: Pink Floyd  

อัลบั้ม: The Piper at the Gates of Dawn

 หากคิดถึงภาพปกของ Pink Floyd แน่นอนว่าภาพภาพสายรุ้งที่พาดทะแยงทางด้านขวา ตรงกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม และทางด้านซ้ายเป็นเส้นลักษณะคล้ายแสงภายใต้พื้นหลังที่เป็นสีดำจากอัลบั้ม The Dark Side Of The Moon ที่ออกวางจำหน่ายในปี 1973 ก็ต้องเป็นภาพแรกที่ทุกคนนึกถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

คุณรู้หรือไม่ว่ารูปแสงเส้นหนึ่งวิ่งผ่านสามเหลี่ยมทรงพีรามิดแล้วเกิดเป็นสายรุ้งนั้นคือลักษณะของแสงที่ผ่านปริซึมแล้วเกิดการหักเห ซึ่งการใช้ปริซึมในการถ่ายภาพนั้น ทาง Pink Floyd ได้นำมาถ่ายภาพปกอัลบั้มแรกของพวกเขาที่ออกมาในปี 1967 แล้วนั่นเอง

ภาพปกอัลบั้มที่ชื่อว่า The Piper at the Gates of Dawn นั้นถ่ายโดย Vic Singh ช่างภาพลูกครึ่งอินเดีย-ออสเตรียสายแฟชั่นผู้นำเทคนิคพิเศษอย่างปริซึมเข้ามาใช้ ทำให้ภาพที่ออกมามีลักษณะเหมือนเคลื่อนไหวไปมาได้ แต่ยังคงโฟกัสชัดเจน เป็นภาพทับซ้อนกันไปมาเข้ากันได้ดีกับดนตรีสไตล์ไซเคเดลิคร็อคของวงเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงปี 1967 นั้นเป็นยุคทองของวัฒนธรรมไซเคเดลิค ทั้งดนตรี แฟชั่น และวัฒนธรรมการเสพแอลเอสดีอย่างบ้าคลั่ง ที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Swinging Sixties นั่นเอง และเรื่องน่าตลกคือช่างภาพคนนี้ไม่เคยรู้จักหรือเคยฟังเพลง Pink Floyd มาก่อนเลย เพิ่งจะมาฟังก่อนถ่ายภาพนั้นกันสดๆ ในวันเดียวกันเลย 

นี่คืออัลบั้มแรกของ Pink Floyd วงร็อคสัญชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในสมัยที่ยังไม่มีมือกีต้าร์และนักร้องระดับตำนานอย่าง David Gilmour ได้ซาวด์เอ็นจิเนียมือฉมังอย่าง Norman Smith ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังเพลงของ The Beatles กว่า 100 เพลงคอยกุมบังเหียน อัลบั้มนี้ถือได้ว่าเป็นตัวต้นแบบดนตรีไซเคเดลิคร็อคของประเทศอังกฤษเลยก็ว่าได้ เว็บไซต์ดนตรีชื่อดังอย่าง Rolling Stone ได้มอบ 5 ดาวให้อัลบั้มนี้เลยทีเดียว โดยนับแต่นั้นมา วงดนตรีจากฝั่งอังกฤษอย่าง Blur, Radiohead หรือแม้แต่ไอคอลตัวพ่ออย่าง David Bowie ต่างได้เดินตามทางที่ Pink Floyd ได้ปูไว้ให้ก่อนแล้วเรื่อยมา

 

Source:

https://medium.com/@mikeoutro/rage-against-the-machine-27f281b9750f 

https://twitter.com/thebeatles/status/894925982930481153/photo/1

https://vinyl-records.nl/pink-floyd/pink-floyd-the-piper-at-the-gates-of-dawn-uk-fame-release-vinyl-lp-album.html 

https://1.bp.blogspot.com/-kdf6iBR5VEs/XVbhOm2o4JI/AAAAAAADmeM/2_91Uua_91ko-A1vnt3IUnqS123aEJZnwCLcBGAs/s1600/woodstock-album-cover.jpg