พอรู้ข่าวแล้วเตรียมตัวอย่างไร

โดยปกติ The Standard เราจะเล่นเรื่องผลกระทบคนเมืองและข่าวที่เป็นกลางมากกว่า กับข่าวใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากสังคม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือ ทราบตั้งแต่ช่วงเช้าว่าต้องไป พอดีตอนเช้ามีงานที่ทำเนียบ ทีนี้หัวหน้าก็สั่งว่าไปดูหน่อย ให้เข้าพื้นที่หน่อย เราก็เลยจัดตั้งทีมเล็กๆ ขึ้นมาจากนั้นเราก็เปิดแผนที่สำรวจข้อมูลของพื้นที่โดยรอบ ภาพที่สำนักข่าวอื่นมีเราไม่มีแน่นอน เราก็เริ่มดูคนอื่นแล้วว่าเขาถ่ายอะไรกันมาบ้างแล้ว เหตุการณ์ตอนนี้เป็นยังไง เริ่มเปิดดูไลฟ์สดของช่องอื่นๆ ว่าสถานการณ์อยู่ในระดับไหน เราหาข้อมูลแล้วพบว่าวัดสลุดเป็นพื้นที่อพยพชั่วคราว ก็เลยเดินทางไป เราไม่สามารถเอาความเสียหายจากจุดเกิดเหตุได้ชัดเจนแล้ว เราเลยเก็บภาพรอบนอก ผลกระทบของผู้คนโดยรอบที่เกิดจาดเหตุการณ์นี้ จุดแรกที่เราคิดได้คือศูนย์อพยพ

ความรู้สึกตรงที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร

ตื่นเต้นนะ ตอนเข้าไปมันมีสิ่งเร้าตลอดเวลา เสียงไซเรนจากรถดับเพลิงที่วิ่งเกือบจะตลอดเวลา

ทางออฟฟิศก็ซัพพอร์ตด้วยการส่งข้อมูลมาว่าสารเคมีตัวนี้โดนร่างกายหรือสูดดมเข้าไปมันมีผลยังไง มีน้องนักข่าว ช่างภาพวีดีโอไปกับเราด้วย ทีนี้ความรับผิดชอบไม่ใช่แค่ชีวิตเราชีวิตเดียวแล้วก็มีน้องๆ ในทีมด้วย ก็เลยมี Mindset ว่าเราจะไม่เข้าใกล้ขนาดนั้น ถ้าได้กลิ่นคือถอนตัวเลยนะ ให้ถอนตัวไปอยู่บริเวณอื่น อันนี้เป็นกฎข้อแรกในการทำงานที่ตั้งขึ้นมา

พอไปถึงพื้นที่เกิดเหตุ เราเห็นความไม่พร้อมของการรับมือปัญหา ชาวบ้าน สถานีอนามัย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งหมดทั้งมวล แต่เราก็เห็นความร่วมแรงร่วมใจ ทุกความสามารถมันถูกพุ่งมาที่ตรงนี้หมดเลย

จุดไหนที่ตัดสินใจว่าจะออกจากพื้นที่

ช่วงเที่ยงคืนเราก็ฟังวิทยุว่าเขาใช้โฟมเข้าไปดับแล้วควันเริ่มน้อยลงจากวันดำเป็นควันขาว จากควันสูงประมาณตึกสิบชั้นเหลือน้อยลงเหลือสามชั้นสองชั้น จากประการณ์ที่ทำงาน เราก็ว่ามันน่าจะเริ่มเอาอยู่แล้ว สถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปได้ดีกว่าในช่วงเช้า บวกกับมีข้อมูลจากพี่กู้ภัยว่าอยู่ในขั้นลงไปปิดวาล์ว ซึ่งถึงแม้ว่ามันดูเหมือนจะจบ ก็ยังต้องมาต่อด้วยหน้าที่ของสื่อมวลชน พอดับไฟเสร็จ ก็มีขั้นตอนเจ้าหน้าที่ตรวจหาหลักฐาน เราก็เข้าไปดูความเสียหลังจากเหตุการณ์


ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม

ช่องทางติดตามผลงาน
www.thestandard.co/author/flukku

ผลงานเผยแพร่ที่
The Standard